คำอธิบาย

สำหรับศูนย์การค้า Gateway Ekamai ก็เป็นที่รู้จักกันแล้วนะคะ เพราะเปิดตัวมาตั้งแต่ พฤษภาคม 2555 โดยมีพื้นทั้งหมด 93,000 กว่าตารางเมตรตั้งอยู่ใจกลางของย่านเอกมัย

ซึ่งคอนเซปออกแนวผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่น มีร้านอาหาร ร้านค้าปลีก สถานบันการเงิน ความงาม สุขภาพ เข้ามาเปิดบริการให้บุคคลทั่วไปอยู่ตลอดค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้น

• ขนาดพื้นที่9 ไร่ (14,400 ตาราเมตร)
• จำนวนชั้น8 ชั้น
• พื้นที่ภายในศูนย์การค้า93,000 ตารางเมตร
• พื้นที่ให้เช่า32,000 ตารางเมตร
• ที่จอดรถ1,000 คัน
• จำนวนร้านค้า400 ร้านค้า
• ร้านค้าหลัก
  ร้านอาหารชั้นนำจากญี่ปุ่น ซุปเปอร์มาร์เก็ต สินค้าแฟชั่น เทคโนโลยี ไอที ร้านหนังสือ ศูนย์การเรียนรู้และโรงเรียนสอนศิลปะหลายแขนง
• งบลงทุนโครงการ2,000,000,000 บาท
• เจ้าของโครงการบริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด

ราคาค่าเช่าพื้นที่ โปรดติดต่อ

เช่าพื้นที่ขายรายวันและจัดกิจกรรม pansa.j@tcclr.co.th
สอบถามข้อมูลทั่วไป sumet.s@tcclr.co.th
เช่าพื้นที่ร้านค้า kosit.c@tcclr.co.th
สมัครงาน siriwan.c@tcclr.co.th
ซื้อสื่อโฆษณาภายในศูนย์การค้าฯ pansa.j@tcclr.co.th, ratiporn.k@mediafront.co.th

• การคมนาคม:

  ทางเชื่อมต่อกับระบบรถขนส่งไฟฟ้ามวลชนซึ่งส่วนต่อขยายไปยังสมุทรปราการจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม 2554

  • 10 นาทีด้วยรถไฟฟ้าจากสยามสแควร์
  • สะดวกสบายด้วยถนนสายหลัก 2 สาย คือถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 ผ่านทางถนนสุขุมวิท42
  • เพียง 200 เมตรจากแยกเอกมัยและสถานีขนส่งสายตะวันออก
  • เพียง 6.5 กม. จากแยกบางนา ชุมทางของชานเมืองด้านตะวันออกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นต้นทางไปโครงการพัฒนาชายฝั่งภาคตะวันออก
  • รถประจำทางขนส่งมวลชนผ่านหน้าโครงการ 17 สาย

(ที่มา http://www.gatewayekamai.com/th/about.php)

ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย แบ่งออกเป็น 8 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็ถูกตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นแตกต่างกัน ประกอบด้วย
ชั้น B – Service Shop ซึ่งเป็นศูนย์ให้การบริการด้านต่าง ๆ ประกอบไปด้วย ลานจอดรถ, ร้านเพ็ตช็อป, ร้านซักผ้า, คลังสินค้า ฯลฯ

ชั้น G – Take Home ละลานตาไปด้วยร้านอาหารหลากหลายชาติ ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ รวมไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตสไตล์ญี่ปุ่น ที่อัดแน่นไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ ขนมกรุบกรอบ และสินค้าแบบญี่ปุ่นๆ

ชั้น M – Japanese Restuarant เรียก ได้ว่าชั้นนี้คงถูกใจคออาหารญี่ปุ่นทั้งหลายอย่างแน่นอน เพราะชั้นนี้อัดเต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นซาซิมิ ซูซิ อุด้ง ราเมน หรือว่าจะเป็นขนมหวานอย่างเค้กชาเขียวราดถั่วแดง  หรือจะเป็นน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะสไตล์ญี่ปุ่น รับรองว่าต้องร้อง “สุโค่ย” อย่างแน่นอน

ชั้น 1 – Health and Beauty ชั้นนี้ เป็นชั้นที่เอาใจคุณผู้หญิงทั้งหลาย ที่ใส่ใจในสุขภาพและความสวยความงาม เพราะทาง “gateway เอกมัย” ได้รวบรวมแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำของญี่ปุ่น รวมไปถึงแบรนด์หรูอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีซาลอนหลากหลายประเภทให้ได้เลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นร้านทำผม ต่อขนตา ต่อเล็บ แบบที่สาวญี่่ปุ่นเขานิยมกันเลยล่ะค่ะ

ชั้น 2 – Fashion โซนแฟชั่นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแนวไหนรับรองว่า “gateway เอกมัย” มีครบ! ทุกไอเท็ม ทุกไอคอน ที่ฮอตฮิต ที่นี่มีให้เลือกสรรกันอย่างจุใจแน่นอน

ชั้น 3-4 Technology and IT สุด ล้ำไปกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถเลือกช้อป เลือกใช้ ได้ก่อนใคร แถมยังมีสินค้าใหม่ ๆ ที่นำมาให้ลองกันอย่างมากมาย เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรแห่งเทคโนโลยี และไอทีจริงๆ

ชั้นนี้จะรวมร้าน IT ต่างๆ ทั้งโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์

ชั้น 5 – Edutainment ชั้น นี้คงเป็นชั้นที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เพราะร้านรวงและกิจกรรมที่ตอบสนองผู้ใช้บริการทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะจูโน่เวิลด์ โลกของเล่นที่เด็กทุกคนต้องโปรดปราน
(ที่มา http://www.thaifranchisecenter.com/market/detail.php?market=519)

Walk-though เดินสำรวจภายใน

จากการเข้าไปเยี่ยมชมภายในอาคารก็ประทับใจในความกว้างและขนาดที่เพียงพอของที่จอดรถภายในห้าง ซึ่งเมื่อปี 2555 ห้างเปิดตัวแรงและหวังทำเงินกับ theme ญี่ปุ่น ซึ่งไม่เพียงแต่จะดึงดูดลูกค้าญี่ปุ่นที่อยู่ในระแวก เอกมัย ทั้งยังดึงดูดลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบในสินค้า อาหาร บริการของญี่ปุ่น

ภาพแสดงบริเวณที่จอดรถ

แต่ด้วยการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ของห้างสรรพสินค้าเส้นรถไฟฟ้า ซึ่งก็มี อาทิ เช่น Central Embassy, Termial 21, Central World, Central Chitlom, Emporium, Emquarier ทำให้ร้านค้าภายในห้างปิดตัวไปบ้าง

ทางห้างอาจจะต้องมีอะไรที่ดึงดูดใจคนเดินมากกว่าขายสินค้าทั่วไปที่หาที่อื่นได้ หรือ อาจได้ในราคาที่ดีกว่า

ตัวอย่างของห้าง Terminal 21 นั้นก็ดึงดูดลูกค้าโดยไม่เก็บค่าเช่าที่ส่วน Food court ทำให้ขายอาหารได้ในราคาถูกและมีคนมาเดินห้างเยอะขึ้น ร้านค้าปลีกก็มีกำไรตามกันไป

อีกข้อแนะนำก็น่าจะเป็นเรื่องการมีโรงภาพยนต์ โรงเรียน หรือ ลานไอซ๋สเกตเพื่อช่วยเพื่อมิติของการทำกิจกรรมภายในห้างสรรพสินค้า